by Thanaphon Aneksittisin
www.wooddecorate.com

 

ไม้ปาร์เกต์(ในที่นี้ขอเรียกรวม ไม้โมเสคไว้รวมกันเลยนะครับ) วัสดุพื้นยอดนิยมของคนไทยเราและต่างประเทศ มีให้เลือกหลากหลายขนาด หลายชนิดไม้ ราคาแตกต่างกันไป แต่ทำอย่างไรจะให้พื้นไม้ปาร์เกต์ของเราสวยทนนานคุ้มค่าเงิน

ปาร์เกต์ (parquet) เป็นความหมายตามกรรมวิธีการทำ คือการนำไม้มาต่อกันให้เป็นแผ่น เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้เต็ง ซึ่งชนิดของไม้นี้เองที่เป็นตัวกำหนดราคาของปาร์เกต์ ปัญหาที่พบมากในบ้านที่มีการปูปาร์เกต์ คือ

 

1.ไม้ปาร์เกต์หลุดร่อน สาเหตุที่ทำให้ปาร์เกต์หลุดร่อนมีดังนี้

- เนื่องจากติดกาวไม่อยู่ ไม่แน่น หรือรีบขัดพื้นก่อนกาวแห้ง หรือทากาวไม่สม่ำเสมอ

- กาวที่ปูพื้นเสื่อมสภาพตามระยะเวลาการใช้งาน

- พื้นมีน้ำขังเป็นเวลานาน หรือน้ำท่วม ทำให้ไม้พองตัวโก่งตัวขึ้นมาบางครั้งอาจจะหลุดร่อนทั้งพื้น
- ปลวกกินไม้ ทำให้ไม้เป็นแอ่ง ไม่เรียบ หรือเป็นรอย ไม่สวยงาม

ข้อควรระวัง คือ เมื่อไม้ปาร์เกต์หลุดแล้วต้องรีบแก้ไข ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะปัญหาอาจบานปลาย ด้วยคุณอาจทำน้ำหกทำให้เกิดปัญหาปาร์เกต์บวมตามมา หากปาร์เกต์หลุดร่อนเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างควรให้ช่างมาตีราคาเพื่อซ่อม ไม่ควรคิดจะซ่อมเอง แต่หากเกิดการหลุดร่อนแค่ไม่กี่ชิ้นเราก็พอจะซ่อมแซมเองได้

วิธีการซ่อมแซมไม้ปาร์เกต์หลุดร่อน  (หากเกิดการหลุดร่อนแค่ไม่กี่ชิ้น) 1. เลาะไม้ปาร์เกต์ที่หลุดร่อนออก ให้สำรวจว่าใช้ไม้ปาร์เกต์ชนิดใด ขนาดของชิ้นไม้ และพื้นที่ความเสียหายประมาณกี่ชิ้น(ในกรณีเสียหายเล็กน้อย หรือโดนปลวกกินเป็นแผ่นๆ) 2. ซื้อไม้ปาร์เกต์เพื่อซ่อมแซม(ในกรณีที่ไม้เดิมเสียหายจนไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก) ถ้าไม่แน่ใจเรื่องชนิดและขนาดไม้ ให้นำตัวอย่างไม้ที่เลาะออกมาไปซื้อจากร้านค้าได้เลย และควรใช้กาวลาเท็กซ์สำหรับปูไม้โดยเฉพาะในการซ่อมพื้น (วิธีคำนวณคร่าวๆ = กาว 1 กก. : 1.2 ตร.ม.) 3. เตรียมพื้นสำหรับการติดกาว โดยใช้สกัดปากแบนหรือไขควง ขูดเอาเศษกาวเก่าออกให้หมดปัดฝุ่นให้สะอาด 4. ทากาวลาเท็กซ์ที่เตรียมไว้ป้ายให้หนาประมาณ 1- 2 มิลลิเมตร นำชิ้นไม้ที่หลุดมานั้นสอดไว้ที่เดิม ค่อยๆ กด และ เคาะเบาๆ โดยต้องรักษาระดับผิวของไม้ให้เท่าเดิม 5. จากนั้นทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิท อย่างน้อย 7-15 วัน แล้วแต่คุณภาพกาวที่ใช้ 6. นำกระดาษทรายเบอร์ 0 ที่ละเอียดมาขัดตามรอยต่อ ให้ชิ้นไม้เสมอกัน นำน้ำมันวานิช/ทาบาง ๆ 2-3 ครั้งจนกระทั่งได้ระดับแล้วขัดด้วยกระดาษทรายอีกครั้งจบเรียบ 7. นำดินสอพองผสานแชลแลคตามสีที่ย้อมให้เหมือนกับของเดิม อุดเสี้ยนพอแห้งแล้วขัดกระดาษทรายอีกครั้ง ทาแชลแลคสีเดิม ย้อมผิวก่อน เอากระดาษทรายลูบแล้วจึงผสมน้ำมันเคลือบผิวไม้กับทินเนอร์ให้ใส ..เป็นอันเสร็จ

 

2.ไม้ปาร์เกต์บวมพอง เป็นปัญหาพบบ่อยที่สุด สาเหตุของปัญหาส่วนใหญ่ของการบวม หรือพอง คือ ความชื้น (อ่านเพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์ไม้กับความชื้น)

เมื่อเกิดการบวม หรือพองขึ้นมาไม่ว่าจะมาจากสาเหตุข้อไหน ไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนพื้นใหม่ทั้งหมดครับ เพียงแต่เรียกช่างมาให้ขัดและทาสีพื้นไม้ที่บวมให้ดูกลมกลืนกับของเดิม อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเรียกช่างมาขัดพื้น ควรจะหาสาเหตุที่ไม้บวมพองขึ้นมาให้แน่ชัด ว่าเกิดจากสาเหตุใด

- ความชื้นของเนื้อไม้ พื้นไม้จะบวมหรือพองภายใน 3 เดือนแรกของการใช้งาน หากไม่มีการรับประกันผลงานควรจะทิ้งไว้ซักระยะหนึ่งจนกระทั่งไม้มีการบวม หรือพองจนอยู่ตัว จึงเรียกช่างมาขัดซ่อมแซม

- ความชื้นจากปัจจัยอื่นๆ ต้องแก้ปัญหาให้เรียบร้อยซะก่อน เช่น การรั่วซึมจากภายนอก แล้วจึงเรียกช่างมาขัดซ่อมแซม

 

3. ไม้ปาร์เกต์ระเบิด หรือดันตัวโก่งงอขึ้น พบไม่บ่อยนัก วิธีการแก้ไขไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนพื้นใหม่เช่นกัน ต้องใช้ช่างมาอัดไม้ให้ลงไป แต่ต้องใช้ฝีมือช่างในการตัดแต่งพอสมควรครับ ซึ่งการระเบิดอาจเกิดจากสาเหตุคือ

-  เทคนิคการปูปาร์เกต์ เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่มีการยืดหดตัวสูงตามธรรมชาติ ช่างบางคนอาจปูปาร์เกต์อัดแน่นเกินไป ไม่เว้นพื้นที่ให้ไม้ขยายตัว บริเวณริมผนัง ซึ่งควรเว้นให้เหลือช่องว่างระหว่างขอบพื้นไม้ริมผนังสักประมาณ 1-2 ซม. แล้วใช้บัวผนังช่วยในการปิดรอยต่อที่ไม่สนิทเป็นร่องนั้น เมื่อปาร์เกต์ขยายตัวก็จะยังมีช่องว่างในการขยายตัวของไม้ และทำให้ไม่ดันตัวจนระเบิดโก่งงอขึ้น

-  การปูพื้นปาร์เกต์ในห้องปิดตาย ในระยะแรกหลังจากจบงานทำสีไม้พื้นปาร์เกต์ บางครั้งเจ้าของบ้านหรือโครงการยังไม่ได้ย้ายเข้าอยู่ทันที การปิดประตูห้องทิ้งไว้โดยไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้พื้นไม้ปาร์เกต์ที่เพิ่งปูเสร็จใหม่ๆ โดยที่ไม้ยังมีการปรับสภาพความชื้นอยู่ หากไม่มีอากาศถ่ายเทก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม้มีการขยายตัวมากกว่าปกติจนทำให้พื้นไม้เกิดระเบิดขึ้นมาได้